Last updated: 21 ม.ค. 2565 | 233 จำนวนผู้เข้าชม |
มังคุดหูเขียว...คุณภาพเยี่ยม
ในปี 2559 ประเทศไทย มีปริมาณการส่งออกมังคุด 4,308 ล้านบาท ซึ่งคุณภาพของผลผลิตต้องตรงตามความต้องการของตลาดการส่งออก ได้แก่
1. ขนาดผล 100 กรัมขึ้นไป
2. ผิวสวย ผิวมัน
3. ไม่มีโรคและแมลง
4. ไม่มีอาการเนื้อแก้วยางไหล
ปัญหาการส่งออกที่พบคือ กลีบเลี้ยงของมังคุดมีสีแดงเรียกว่า”อาการหูแดง” ทำให้ราคาตก แม้ผลจะสวยก็ตาม
สาเหตุเกิดจากคลอโรฟิลล์ในกลีบเลี้ยงลดลง ดินขาดแมกนีเซียมและแคลเซียม ทำให้กลีบเลี้ยงเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดง
การป้องกันอาการหูแดง ควรป้องกันตั้งแต่ระยะก่อนเก็บเกี่ยวคือ พ่นแมกนีเซียมทางใบร่วมกับใส่ปุ๋ยทางดิน จำนวน 3 ครั้ง
-ครั้งที่ 1 ระยะดอกบานได้ขนาด 2 เซนติเมตร (ระยะสัปดาห์ 3-4 หลังดอกบาน)
-ครั้งที่ 2 ระยะผลขนาดเท่าลูกปิงปอง (ผลอายุประมาณ 7-8 สัปดาห์)
-ครั้งที่ 3 ก่อนเก็บเกี่ยว 2 สัปดาห์ (ผลอายุประมาณ 10-13 สัปดาห์หลังดอกบาน) (ที่มา: ARDA Thailand https://youtu.be/oiwuMVefIe4 )
เเนะนำใช้ผลิตภัณฑ์คุณภาพ
โบเก้ ไมโครแม็กซ์
คู่หูปลอดแมลงและอาการหูแดงของมังคุด
โบเก้ หรือ อะบาเมกติน
ชื่อสามัญ: อะบาเมกติน
กลุ่มสารเคมี: avermectin (กลุ่ม 6)
สารป้องกันและกำจัดเพลี้ยไฟที่เป็นต้นเหตุสำคัญของการเข้าทำลายผลมังคุด ทำให้มังคุดมีผิวลาย
ไมโครแม็กซ์
ธาตุอาหารรองและธาตุเสริม
ป้องกันอาการหูแดง ดูดซึมไว มังคุดใช้ทันที เพื่อผลมังคุดเขียว สวย ผิวเนียน ผิวมัน และบำรุงผลให้มีขนาดใหญ่ เนื้อแน่น รสชาติหวาน ตรงความต้องการของตลาด
อัตราการใช้: โบเก้ 100 ซีซี หรือ อะบาเมกติน 200 ซีซี ต่อน้ำ 200 ลิตร ไมโครแม็กซ์ 50 กรัม ต่อ น้ำ 200 ลิตร
#ชวนกันแชร์อวดมังคุดหูเขียว
12 ต.ค. 2566
12 ต.ค. 2566
12 ต.ค. 2566